วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2558

week9:เรื่องที่นักเรียนสนใจ(ยอดเขาเอเวอร์เรสต์)

วันนี้ผมจะมาเเนะนำจุดท่องเที่ยว เเละ เป็นที่ๆท้าทายสำหรับนักปีนเขา คือ ยอดเขาเอเวอร์เรสต์(Mount Everest) เป็นที่สูงเเละท้าทายกันขนาดไหนลองมาดูกันดีกว่า
ขอบคุณภาพจาก:https://en.wikipedia.org
ยอดเขาเอเวอเรสต์ (Mount Everest) เป็นยอดเขาหนึ่งในเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งเกิดจากการชนกันของแผ่นเปลือกโลกยูเรเซียนและแผ่นเปลือกโลกอินเดีย ในทางภูมิรัฐศาสตร์ ยอดเขาเอเวอเรสต์ถือเป็นจุดแบ่งพรมแดนระหว่างประเทศเนปาลและทิเบต โดยชาวเนปาลเรียกยอดเขาเอเวอเรสต์ว่า สครมาตา ส่วนชาวทิเบตขนานนามยอดเขาแห่งนี้ว่า โชโมลังมา
ชื่อยอดเขาเอเวอเรสต์นั้น ตั้งโดย เซอร์แอนดรูว์ วอ นักสำรวจประเทศอินเดียชาวอังกฤษ เพื่อเป็นเกียรติแก่ เซอร์จอร์จ อีฟเรสต์ นักสำรวจประเทศอินเดียรุ่นก่อนหน้า ซึ่งก่อนหน้านั้นนักสำรวจเรียกยอดเขาแห่งนี้เพียงว่า ยอดที่สิบห้า (Peak XV)
คนทั่วไปจดจำชื่อเอเวอเรสต์ได้ในฐานะยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก แต่สำหรับชาวเชอร์ปา (Sherpa) และนักปีนเขา (climber) บางคนแล้ว ยอดเขาเอเวอเรสต์ไม่ได้เป็นเพียงแค่จุดที่สูงที่สุดบนพื้นโลกเท่านั้น หากยังเป็นจุดหมายสูงสุดในชีวิตพวกเขาด้วย การไปให้ถึงยอดเขาเอเวอเรสต์เป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่เมื่อยอดเขาเอเวอเรสต์ถูกพิชิตได้ นั่นหมายความว่าขีดจำกัดของมนุษยชาติได้เพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่งแล้ว
Image result for เอเวอร์เรส
ขอบคุณภาพจาก:http://mcot-web.mcot.net
ที่สุดของความสูง
ยอดเขาเอเวอเรสต์เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดเมื่อวัดจากระดับน้ำทะเล แต่ก็ยังกล่าวได้ไม่เต็มปากเต็มคำนักว่ายอดเขาเอเวอเรสต์เป็น ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก เนื่องจากมีอีกสองยอดเขาที่ดูจะสูงกว่ายอดเขาเอเวอเรสต์ เมื่อใช้เกณฑ์การวัดที่ต่างกัน ยอดเขาแรกคือ ยอดเขาเมานาโลอา(Mauna Loa) ในหมู่เกาะฮาวาย ซึ่งถ้าวัดความสูงจากฐานที่จมอยู่ในทะเลแล้วจะพบว่ายอดเขานี้สูงกว่า 9 กิโลเมตร เลยทีเดียว แต่เมื่อวัดความสูงจากระดับน้ำทะเล ยอดเขาเมานาโลอาจะสูงเพียง 13,680 ฟุต หรือ 4,170 เมตรเท่านั้น อีกยอดเขาหนึ่งคือ ยอดเขาชิมโบราโซ (Mount Chimborazo) ในประเทศเอกวาดอร์ ที่ถ้าวัดจากจุดศูนย์กลางโลกแล้วจะสูงกว่ายอดเขาเอเวอเรสต์ 2,150 เมตร ทั้งนี้เพราะโลกมีลักษณะป่องตรงกลาง แต่เมื่อวัดความสูงจากระดับน้ำทะเล ยอดเขาชิมโบราโซมีความสูง 6,272 เมตร
เป็นที่น่าสังเกตว่าจุดที่ลึกที่สุดในมหาสมุทร มีความลึกมากกว่าความสูงของยอดเขาเอเวอเรสต์ โดยร่องลึกแชลเลนเจอร์ (Challenger Deep) ในร่องลึกบาดาลมาเรียนา (Mariana Trench) นั้นลึกมากเสียจนถ้าวางยอดเขาเอเวอเรสต์ลงไป ยอดเขาเอเวอเรสต์จะยังคงจมอยู่ในน้ำเป็นระยะทางเกือบไมล์
ขอบคุณภาพจาก:http://www.vipholidaytravel.co.th

ความพยายามพิชิตยอดเขาโดยคนไทย

คนไทยที่สามารถพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์สำเร็จเป็นคนแรกคือ นายวิทิตนันท์ โรจนพานิช ซึ่งสามารถพิชิตยอดเขาได้เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 เวลา 8:00 น. ตามเวลาท้องถิ่นเนปาล ร่วมกับนักปีนเขาชาวเวียดนาม 3 คนจากรายการเรียลลิตี้โชว์ "Conquering Mount Everest 2008" ของสถานีโทรทัศน์วีทีวี ประเทศเวียดนาม
ขอบคุณภาพจาก:https://th.wikipedia.org

ถ้าเพื่อนๆคนไหนที่การปีนเขาหรือผจญภัยก็อยากให้ลองไปที่ยอดเขานี้ดูนะครับ

ที่มา:

Week8:แนะนำการใช้งานโปรแกรม EntertainMAN 9Karaoke 

        สวัสดีครับวันนี้นะจะมาแนะนำการใช้งานโปรแกรม EntertainMAN 9Karaokeหรือนายคาราโอเกะเป็นโปรแกรมคาราโอเกะที่ไม่เหมือนกับโปรแกรมคาราโอเกะสามารถเอาไว้ใช้เปิดคลิปวีดีโอ(VDO Clips)จากเว็บผู้ให้บริการวีดีโอคลิป ชื่อดังอย่าง Youtube.com แล้วผู้ใช้งานนั้นจะสามารถ ร้องคาราโอเกะได้เลย เรามาดูวิธีการใช้งานกันดีกว่า 
EntertainMAN 9Karaoke (โปรแกรมคาราโอเกะ Youtube Official MV เราก็ตัดเสียงร้องได้)
ขอบคุณภาพจาก:http://software.thaiware.com

EntertainMAN 9Karaoke (โปรแกรมคาราโอเกะ Youtube โปรแกรมตัดเสียงร้อง เนียนๆ) : โปรแกรมนี้มีชื่อว่า โปรแกรม EntertainMAN 9Karaoke ภาษาไทยอ่านว่า นายคาราโอเกะ นั่นเอง มันเป็น โปรแกรมคาราโอเกะ ที่ไม่เหมือนกับ โปรแกรมคาราโอเกะ ที่ขายอยู่ตามท้องตลาดทั่วๆ ไป เพราะ มันสามารถเอาไว้ใช้เปิดคลิปวีดีโอ (VDO Clips) จากเว็บผู้ให้บริการวีดีโอคลิป ชื่อดังอย่าง Youtube.com แล้วผู้ใช้งานนั้นจะสามารถ ร้องคาราโอเกะ ได้เลย อย่าเพิ่งตกใจว่าจะเอาไปร้องได้อย่างไร เสียงคนร้องก็มี ไม่ตีกันแย่หรอกเหรอ ? โปรแกรมนี้มีระบบตัดเสียงคนร้องในคลิปออกไปได้ 
โดยหลักการของโปรแกรมนี้คือการ ตัดเสียงร้อง ที่อยู่ในวีดีโอ (VDO Clips) อย่างเช่นพวกมิวสิควีดีโอ (MV) เพลงออกไป(Official MV ก็ตัดได้) ซึ่งถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ต้องการมากๆ สำหรับ คนชอบร้องคาราโอเกะทั้งหลาย ที่ต้องการเอาเสียงร้องคนอื่นออกไป เอาเสียงของตัวเองเข้ามา เพื่อจะได้โชว์พลังเสียงของคุณ หรือ คนร้องคาราโอเกะกันได้อย่างเต็มที่ ด้วยความสามารถทั้งหมดนี้ มีอยู่ใน โปรแกรม EntertainMAN 9Karaoke ดาวน์โหลดโปรแกรมคาราโอเกะ ตัวนี้ไปใช้ได้แล้ววันนี้ ใหม่ล่าสุดเลย และอย่าลืมต่ออินเทอร์เน็ตหากต้องการใช้งานด้วยนะ เอาไว้ใช้ร้องคาราโอเกะเล่นๆ กันในงานกินเลี้ยง ปาร์ตี้ระหว่างหมู่เพื่อนได้มันส์ๆเลย
โปรแกรมตัดเสียงร้อง 9Karaoke
ขอบคุณภาพจาก:http://software.thaiware.com
ความสามารถหลักๆของมันนะครับ
  1. ค้นหาและเล่นคาราโอเกะและวีดีโอจาก Youtube ได้
  2. มีความสามารถเป็น โปรแกรมตัดเสียงร้อง คาราโอเกะออนไลน์จาก Youtube ได้ (คาราโอเกะแท้ LL/RR หรือ Official MV ด้วย Vocal)
  3. เก็บรายชื่อเพลงไว้เลือกเล่นภายหลังได้ (เพลย์ลิส)
  4. EntertainMAN 9Karaoke (โปรแกรมคาราโอเกะ Youtube Official MV เราก็ตัดเสียงร้องได้) :
    ขอบคุณภาพจาก:http://software.thaiware.com
    อยากจะให้เพื่อนๆลองเอาไปใช้ดูบ้างนะครับ เป็นโปรเเกรมที่ไม่ดูยุ่งยากอะไรมาก 

    ที่มา:http://software.thaiware.com/

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

คอมพิวเตอร์และระบบเครือคอมพิวเตอร์

ขอบคุณภาพจาก:https://krucarem32.wordpress.com/
คอมพิวเตอร์ (computer) หรือในภาษาไทยว่า คณิตกรณ์ เป็นเครื่องจักรแบบสั่งการได้ที่ออกแบบมาเพื่อดำเนินการกับลำดับตัวดำเนินการทางตรรกศาสตร์หรือคณิตศาสตร์ โดยอนุกรมนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อพร้อม ส่งผลให้คอมพิวเตอร์สามารถแก้ปัญหาได้มากมาย
คอมพิวเตอร์ถูกประดิษฐ์ออกมาให้ประกอบไปด้วยความจำรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเก็บข้อมูล อย่างน้อยหนึ่งส่วนที่มีหน้าที่ดำเนินการคำนวณเกี่ยวกับตัวดำเนินการทางตรรกศาสตร์ และตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ และส่วนควบคุมที่ใช้เปลี่ยนแปลงลำดับของตัวดำเนินการโดยยึดสารสนเทศที่ถูกเก็บไว้เป็นหลัก อุปกรณ์เหล่านี้จะยอมให้นำเข้าข้อมูลจากแหล่งภายนอก และส่งผลจากการคำนวณตัวดำเนินการออกไป
หน่วยประมวลผลของคอมพิวเตอร์มีหน้าที่ดำเนินการกับคำสั่งต่าง ๆ ที่คอยสั่งให้อ่าน ประมวล และเก็บข้อมูลไว้ คำสั่งต่าง ๆ ที่มีเงื่อนไขจะแปลงชุดคำสั่งให้ระบบและสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ เป็นฟังก์ชันที่สถานะปัจจุบัน
คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์เครื่องแรกถูกพัฒนาขึ้นในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 (ค.ศ. 1940 – ค.ศ. 1945) แรกเริ่มนั้น คอมพิวเตอร์มีขนาดเท่ากับห้องขนาดใหญ่ ซึ่งใช้พลังงานมากเท่ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) สมัยใหม่หลายร้อยเครื่องรวมกัน
คอมพิวเตอร์ในสมัยใหม่นี้ผลิตขึ้นโดยใช้วงจรรวม หรือวงจรไอซี (Integrated circuit) โดยมีความจุมากกว่าสมัยก่อนล้านถึงพันล้านเท่า และขนาดของตัวเครื่องใช้พื้นที่เพียงเศษส่วนเล็กน้อยเท่านั้น คอมพิวเตอร์อย่างง่ายมีขนาดเล็กพอที่จะถูกบรรจุไว้ในอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์มือถือนี้ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ขนาดเล็ก และหากจะมีคนพูดถึงคำว่า "คอมพิวเตอร์" มักจะหมายถึงคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของยุคสารสนเทศ อย่างไรก็ดี ยังมีคอมพิวเตอร์ชนิดฝังอีกมากมายที่พบได้ตั้งแต่ในเครื่องเล่นเอ็มพีสามจนถึงเครื่องบินบังคับ และของเล่นชนิดต่าง ๆ จนถึงหุ่นยนต์อุตสาหกรรม
ประเภทของคอมพิวเตอร์
  • ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (supercomputer)
  • เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (mainframe computer)
  • มินิคอมพิวเตอร์ (minicomputer)
  • ไมโครคอมพิวเตอร์ (microcomputer) หรือ พีซี (personal computer หรือ PC)
  • โน้ตบุ๊ค (notebook or laptop)
  • เน็ตบุ๊ค (netbook or laptop)
  • อัลตร้าบุ๊ค (Ultrabook)
  • แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ (tablet computer)
เครือข่ายคอมพิวเตอร์
การที่ระบบเครือข่ายมีบทบาทและความสำคัญเพิ่มขึ้น เพราะไมโครคอมพิวเตอร์ได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลาย จึงเกิดความต้องการที่จะเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เหล่านั้นถึงกับเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของระบบให้สูงขึ้น เพิ่มการใช้งานด้านต่าง ๆ และลดต้นทุนระบบโดยรวมลง มีการแบ่งใช้งานอุปกรณ์และข้อมูลต่าง ๆ ตลอดจนสามารถทำงานร่วมกันได้
สิ่งสำคัญที่ทำให้ระบบข้อมูลมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้น คือ การโอนย้ายข้อมูลระหว่างกัน และการเชื่อมต่อหรือการสื่อสาร การโอนย้ายข้อมูลหมายถึงการนำข้อมูลมาแบ่งกันใช้งาน หรือการนำข้อมูลไปใช้ประมวลผลในลักษณะแบ่งกันใช้ทรัพยากร 
http://www.school.net.th/library/snet1/hardware/network.gif
เพิ่มคำอธิบายภาพขอบคุณภาพจาก:http://www.school.net.th/
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network) หมายถึงการนำเครื่องคอมพิวเตอร์ มาเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน โดยอาศัยช่องทางการสื่อสารข้อมูล เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ และการใช้ทรัพยากรของระบบร่วมกัน (Shared Resource) ในเครือข่ายนั้น
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ มีองค์ประกอบที่สำคัญ เพื่อการเชื่อมต่อเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ได้แก่ คอมพิวเตอร์แม่ข่าย (File Server) ช่องทางการสื่อสาร (Communication Chanel) สถานีงาน (Workstation or Terminal) และ อุปกรณ์ในเครือข่าย (Network Operation System)
อุปกรณ์ในเครือข่าย
  1. การ์ดเชื่อมต่อเครือข่าย (Network Interface Card :NIC)
  2. โมเด็ม ( Modem : Modulator Demodulator)
  3. ฮับ ( Hub) 
โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (TOPOLOGY)
1. โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบบัส (bus topology)
โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบบัส จะประกอบด้วย สายส่งข้อมูลหลัก ที่ใช้ส่งข้อมูลภายในเครือข่าย เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง จะเชื่อมต่อเข้ากับสายข้อมูลผ่านจุดเชื่อมต่อ เมื่อมีการส่งข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์หลายเครื่องพร้อมกัน จะมีสัญญาณข้อมูลส่งไปบนสายเคเบิ้ล และมีการแบ่งเวลาการใช้สายเคเบิ้ลแต่ละเครื่อง ข้อดีของการเชื่อมต่อแบบบัส คือ ใช้สื่อนำข้อมูลน้อย ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่าย และถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งเสียก็จะไม่ส่งผลต่อการทำงานของระบบโดยรวม แต่มีข้อเสียคือ การตรวจจุดที่มีปัญหา กระทำได้ค่อนข้างยาก และถ้ามีจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายมากเกินไป จะมีการส่งข้อมูลชนกันมากจนเป็นปัญหา
http://www.sa.ac.th/elearning/IMAGE6/bus_topology.jpg
ขอบคุณภาพจาก:http://www.school.net.th/


2. โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบวงแหวน (ring topology)
โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบวงแหวน มีการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์โดยที่แต่ละการเชื่อมต่อจะมีลักษณะเป็นวงกลม การส่งข้อมูลภายในเครือข่ายนี้ก็จะเป็นวงกลมด้วยเช่นกัน ทิศทางการส่งข้อมูลจะเป็นทิศทางเดียวกันเสมอ จากเครื่องหนึ่งจนถึงปลายทาง ในกรณีที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งขัดข้อง การส่งข้อมูลภายในเครือข่ายชนิดนี้จะไม่สามารถทำงานต่อไปได้ ข้อดีของโครงสร้าง เครือข่ายแบบวงแหวนคือ ใช้สายเคเบิ้ลน้อย และถ้าตัดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เสียออกจากระบบ ก็จะไม่ส่งผลต่อการทำงานของระบบเครือข่ายนี้ และจะไม่มีการชนกันของข้อมูลที่แต่ละเครื่องส่ง
http://www.sa.ac.th/elearning/IMAGE6/ring_topology.jpg
ขอบคุณภาพจาก:http://www.school.net.th/
3. โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบดาว (star topology)
โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบดาว ภายในเครือข่ายคอมพิวเตอร์จะต้องมีจุกศูนย์กลางในการควบคุมการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ หรือ ฮับ (hub) การสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆ จะสื่อสารผ่านฮับก่อนที่จะส่งข้อมูลไปสู่เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ แบบดาวมีข้อดี คือ ถ้าต้องการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ก็สามารถทำได้ง่ายและไม่กระทบต่อเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ ในระบบ ส่วนข้อเสีย คือ ค่าใช้จ่ายในการใช้สายเคเบิ้ลจะค่อนข้างสูง และเมื่อฮับไม่ทำงาน การสื่อสารของคอมพิวเตอร์ทั้งระบบก็จะหยุดตามไปด้วย
http://www.sa.ac.th/elearning/IMAGE6/STAR.JPG
ขอบคุณภาพจาก:http://www.school.net.th/
ที่มา:
   



วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

วิเคราะห์ข้อสอบ o-net คอมพิวเตอร์ 5 ข้อ 

สวัสดีครับทุกคน วันนี้ผมจะมานำเสนอตัวอย่างข้อสอบ O-NET คอมพิวเตอร์ ที่มีประโยชน์ให้กับเพื่อนๆทุกคนได้รับรู้นะครับ
ขอบคุณภาพจาก:http://teen.mthai.com/
O-NET คืออะไร ? มีความสำคัญยังไง ?
O-NET คือ การทดสอบการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ซึ่งในภาษาฝรั่งก็คือ Ordinary National Education Test ที่จัดสอบโดย สทศ. ชื่อเต็มๆ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ ในชื่อภาษาอังกฤษ National Institute of Educational Testing Service ตัวย่อ NIETS
ซึ่งการสอบ O-NET นี้จะใช้วัดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดต่างๆให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ซึ่งก็จะใช้วัดความรู้และความคิดของนักเรียนในระดับ ป.6 ม.3 และ ม.6 โดย ที่ข้อสอบจะประกอบไปด้วยเนื้อหา 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่
  1. ภาษาไทย
  2. สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
  3. ภาษาอังกฤษ
  4. คณิตศาสตร์
  5. วิทยาศาสตร์
  6. สุขศึกษาและพลศึกษา
  7. การงานอาชีพและเทคโนโลยี
  8. ศิลปะ
และนอกจาก O-NET จะใช้เป็นตัววัดระดับการศึกษาของเด็กไทยแล้ว ยังเป็นคะแนนที่น้องๆระดับชั้นต่างๆต้องนำไปใช้ในการสมัครเข้าเรียนระดับชั้นต่อไปด้วย ก็คือ น้องๆชั้น ป.6 และ ม.3 ต้องใช้คะแนน O-NET สมัครเข้าเรียน ม.1 และ ม. 4 โดยให้น้ำหนัก 20% (โดยจะมีผลตั้งแต่ปีการศึกษา 2554 เป็นต้นไป) และสำหรับน้อง ม.6 ใช้คะแนน O-NET ในการสมัคร Admission 30%
และก็คงมีคำถามว่าแล้วถ้าเป็นเด็กอินเตอร์ เด็กซิ่ล เด็กนอกละ ต้องสอบไหม! ก็ต้องสอบเหมือนกันถ้าโรงเรียนอินเตอร์แห่งนั้นสอนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ สทศ.ก็จะทำการจัดสอบให้ และถ้าเป็นเด็กนอกที่ต้องการสอบ O-NET ก็ต้องทำการสอบเทียบ ม.6 ก่อน และต้องมีใบรับรองจากโรงเรียนและกระทรวงศึกษาธิการด้วย ซึ่งก็สามารถมายื่นสมัครสอบได้ในช่วงเดือน พฤศจิกายนของทุกปี
สำหรับการสอบ O-NET นี้น้องๆไม่ต้องเสียค่าสอบอะไรเลย และจะทำการสอบกันทุกเดือนกุมภาพันธ์ และจะประกาศผลประมาณปลายเดือนมีนาคมของทุกปี
จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า o-net นั้นมีความสำคัญอย่างไร ที่นี้มาลองทำข้อสอบดูบ้าง
< ข้อสอบวิชาคอมพิวเตอร์ จะอยู่ในหมวด การงานอาชีพและเทคโนโลยี >
ขอบคุณภาพจาก:http://teen.mthai.com/
1.ข้อใดไม่ใช่ระบบปฏิบัติการที่นำมาใช้บนอุปกรณ์พกพา
ประเภท  Smartphone.
1.  Ubumtu       2.  Iphone  os
3.  Android      4.  Symbian
เฉลยข้อ  1
2.ข้อใดเป้นการปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลักวิชาการเมื่อค้นคว้า
หาข้อมูลจากอินเทอร์เนตมาทำรายงาน.
1.คัดลอกเนื้อหาจากเว็บไซต์
2.ใช้เนื้อหาจากกระดานสนทนา(Web board)มาใส่ในรายงาน
3.นำรูปภาพจากเว็บไซต์มาใส่ในรายงาน
4.อ้างอิงชื่อผู้เขียนบทความ
เฉลยข้อ  4
3.ข้อใดเป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่อข้อมูลไร้สายทั้งหมด.
1.  Wi-Fi  ,  IP              2.  Wi-Fi  ,Bluetooth
3.  3G  ADSL                  4.  3G    Ethernet
เฉลยข้อ  2
4.ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้องที่สุด.
1.การบันทึกข้อมูลลงแผ่นดีวีดีใช้เทคโนโลยีแบบแม่เหล็ก
2.หมายเลขไอพีเป็นหมายเลขที่ใช้กำกับ  Network Interce Card
3.หน่วยความจำสำรองเป็นหน่วยความจำที่มีคุณลักษณะแบบ Volntile
4.รหัส ACIIและEBCIDICเป็นการวางรหัสตัวอักษรที่ใช้ขนาด  8 บิด
เฉลยข้อ  3 
5.ระบบกระดานสนทนาหรือเว็บบอร์ดแห่งหนึ่งมีความต้องการดังนี้
  • ต้องให้ผู้ใช้สามารถตั้งกระทู้โต้ตอบกันได้โดยผู้ใช้ต้องแสดงตัวตน(ล็อกอิน)เพื่อเข้าระบบก่อน
  • ผู้ใช้สามารถตั้งกระทู้หรือเข้าไปตอบกระทู้ที่ตั้งไว้แล้วได้
  • ระบบจะบันทึกชื่อผู้ตั้งและผู้ตอบไว้ด้วย
ในการออกแบบฐานข้อมูลดังกล่าวข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง.
1.ต้องสร้างตารางผู้ใช้ ตารางกระทู้และตารางคำตอบ
2.ไม่ต้องสร้างตารางผู้ใช้เนื่องจากสามารถบันทึกชื่อ
ผู้ใช้ในตารางกระทู้และตารางคำตอบได้เลย
3.ต้องสร้างตารางผู้ใช้และตารางกระทู้ส่วนคำตอบจะอยู่
ในตารางกระทู้อยู่แล้ว
4.ไม่ต้องสร้างตารางกระทู้เพราะสามารถบันทึกกระทู้ที่ผู้ใช้
ตั้งในตารางผู้ใช้ได้เลย
เฉลยข้อ  4

ที่มา:
https://krupaga.wordpress.com/

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ย้อนรอยคนเหล็ก รื้อความจำกับ TERMINATOR 1-4

 พวกที่ชอบดูหนังเเนวเเอคขัน sci-fi ก็ไม่ควรพลาด เรื่อง"คนเหล็ก"หรือ"TERMINATOR" เป็นเรื่องเกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างคนกับเครื่องจักรสังหาร เป็นหนังที่ได้รับความนิยมมามากมายตั้งเเต่อดีตจนถึงปัจจุบัน 

The Terminator (1984)
ขอบคุณภาพจาก:http://1.bp.blogspot.com/

ภาคแรกของหนังคนเหล็ก เริ่มเหตุการณ์เมื่อบริษัทสกายเนตได้ส่งหุ่นยนต์สังหารรุ่น T-800 (อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์) เพื่อกลับมาฆ่าซาร่าห์ คอนเนอร์ผู้เป็นแม่ของจอห์น คอนเนอร์บุคคลสำคัญที่เป็นผู้นำในการกอบกู้โลกในอนาคต ในขณะที่โลกอนาคตตัวจอห์น คอนเนอร์เองก็ได้ส่งนายทหารไคลด์ รีสกลับมายังเวลาปัจจุบันเพื่อปกป้องซาร่าห์ แต่เหตุการณ์ในหนังภาคแรกจบลงที่ไคลด์ รีสตายและซาร่าห์รอดชีวิต

Terminator 2 : Judgment Day (1991)
ขอบคุณภาพจาก:http://ts3.mm.bing.net

หลังจากเหตุการณ์ในภาคแรกนั้นซาร่าห์ คอนเนอร์ผ่านชีวิตที่ยากลำบาก เธอยังถูกหลอกหลอนด้วยภาพหุ่นยนต์ตามล่า เธอจึงไปเรียนฝึกรบจากทหารรับจ้างในแม็กซิโกและฝึกให้ลูกชายเตรียมความพร้อมตลอดเวลา แต่สกายเน็ตยังไม่หยุดตามล่าเธอ พวกมันส่งหุ่น T-1000 ซึ่งหลอมเหลวเปลี่ยนรูปร่างเป็นอะไรก็ได้ ในขณะที่กลุ่มผู้รอดชีวิตจากโลกอนาคตได้ส่งหุ่น T-800 (อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์) ที่ได้ตั้งโปรแกรมใหม่มาให้คุ้มครองจอห์นและซาร่าห์ เรื่องราวสิ้นสุดที่ตัวเอกสามารถถล่มห้องทดลองหุ่นต้นแบบหุ่นสังหารได้สำเร็จและความหวังที่ว่าโครงการสกายเน็ตจะไม่เกิดขึ้น

Terminator 3 : Rise of the Machine (2003) 
ขอบคุณภาพจาก:http://www.englishmoviez.com/

หลังจากเหตุการณ์ในภาค 2 จอห์น คอนเนอร์กลายเป็นบุคคลไร้บ้าน ไม่มีประวัติใดๆที่ชี้ชัดถึงการมีตัวตน แต่แล้ววันหนึ่งหุ่นนักฆ่า T-X (คริสเตนน่า โลเคน) หุ่นสาวสวยซุปเปอร์โมเดลที่มีอำนาจทำลายล้างสูง เธอไม่ได้ถูกส่งมาเพื่อกำจัดจอห์นคนเดียว แต่ยังมีสัตวแพทย์สาวที่ชื่อ เคต บรูว์สเตอร์ (แคลร์ เดนส์) ที่จะเป็นกองกำลังสำคัญในโลกอนาคต ความหวังเดียวที่จะรอดชีวิตไปได้ ก็คือการจำลองหุ่นไซบอร์ก T-101 (อาร์โนลด์ ชวาสเซเนเกอร์) มาต่อกรกับหุ่น T-X เรื่องราวในหนังภาคนี้จบลงที่จอห์นและเคตเดินทางไปยังยอดเขาคริสตัลเพื่อปิดระบบสกายเน็ต แต่กลายเป็นว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นแค่หลุมหลบภัย พวกเขาไม่สามารถหยุดยั้งสกายเนตและวันพิพากษาได้

Terminator Salvation ( 2009 )
ขอบคุณภาพจาก:http://www.filmaffinity.com/

ปี 2018 วันอวสานโลกได้ผ่านไป มนุษย์ที่รอดชีวิตต่างอยู่กันอย่างยากลำบาก กลุ่มผู้ต่อต้านได้รวมตัวกันเพื่อต่อสู้กับสกายเนต จอห์น คอนเนอร์(คริสเตียน เบล) คือความหวังเดียวของมวลมนุษยชาติ แต่แล้วเมื่อมาร์คัส ไรท์(แซท เวิร์ทธิงตัน) คนแปลกหน้าจากอดีต ผู้ซึ่งความทรงจำสุดท้ายของเขาคือการรับโทษประหาร เรื่องราวในภาคนี้มาร์คัสได้บุกไปยังฐานทัพของสกายเน็ตและพบความจริงที่ว่าเขาถูกส่งมาเป็นนกต่อให้กลุ่มต่อต้านเผยฐานที่มั่น จอห์นบุกเข้าฐานของสกายเน็ตเพื่อช่วยไคล์ รีสแต่นั่นทำให้เขาถูกหุ่น T-800 ทำร้ายจนเกือบตาย แต่มาร์คัสเลือกจะเสียสละหัวใจเพื่อช่วยให้จอห์น คอนเนอร์มีชีวิตต่อไปในการต่อสู้กับสกายเนต 

ที่มา:http://movie.sanook.com/51939/

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558

โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์( Java )


ภาษาคอมพิวเตอร์คืออะไร?ทำไมถึงต้องมีมัน?


Image result for โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์
ขอบุณภาพจากhttp://jeminiejetty.blogspot.com/2013/07/blog-post_31.html

ภาษาในความหมายอย่างกว้าง หมายถึง กริยาอาการที่แสดงออกมาแล้วสามารถทำความเข้าใจกันได้ ไม่ว่าจะเป็นระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ มนุษย์กับสัตว์ หรือสัตว์กับสัตว์ ส่วนภาษาในความหมายอย่างแคบนั้น หมายถึง เสียงพูดที่มนุษย์ใช้สื่อสารกันเท่านั้น
ภาษาคอมพิวเตอร์ หมายถึง ภาษาผู้ใช้งานใช้สื่อสารกับคอมพิวเตอร์ หรือคอมพิวเตอร์ด้วยกัน แล้วคอมพิวเตอร์สามารถทำงานตามคำสั่งนั้นได้ เรียกแทนภาษาโปรแกรม แต่ความเป็นจริงภาษาโปรแกรมคือส่วนหนึ่งของภาษาคอมพิวเตอร์เท่านั้น และมีภาษาอื่นๆ ที่เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างเช่น HTML เป็นทั้งภาษามาร์กอัปและภาษาคอมพิวเตอร์ด้วย แม้ว่ามันจะไม่ใช่ภาษาโปรแกรม หรือภาษาเครื่องนั้นก็นับเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ ซึ่งโดยทางเทคนิคสามารถใช้ในการเขียนโปรแกรมได้ แต่ก็ไม่จัดว่าเป็นภาษาโปรแกรม
ภาษาคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่มคือ 

  • ภาษาระดับสูง (high level) หมายถึงภาษาโปรแกรมที่มีภาวะนามธรรมอย่างสูงจากรายละเอียดการทำงานของคอมพิวเตอร์ ใช้งานง่ายกว่า ทำให้กระบวนการพัฒนาโปรแกรมตามข้อกำหนดเรียบง่ายกว่าและสามารถทำความเข้าใจได้ดีกว่า
  • ภาษาระดับต่ำ (low level) หมายถึง ภาษาที่อิงกับสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ใดสถาปัตยกรรมหนึ่ง ซึ่งไมโครโพรเซสเซอร์แต่ละรุ่น หรือ แต่ละตระกูล ก็มักมีภาษาระดับต่ำที่แตกต่างกันหนึ่งคำสั่งในภาษาระดับต่ำ จะหมายถึงการสั่งงานคอมพิวเตอร์ให้ทำงานหนึ่งอย่าง (1 instruction = 1 operation)

Java คืออะไร????

ขอบคุณภาพจากhttps://blog.newrelic.com/2014/12/08/10-ways-java-money/
Java เป็นโปรแกรมภาษาที่ถูกพัฒนามาเพื่อรองรับการออกแบบซอฟแวร์ที่มีการเชื่อมโยง Internet เป็นโปรแกรมที่สนับสนุนแนวความคิดของการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ หรือที่เรียกว่า OOP (Object-Oriented Programming) โดยมีความสามารถเฉพาะตัวต่างจากโปรแกรมภาษาชั้นสูง อื่น ๆ เช่น หรือ C++ ในเรื่องของการทำงานข้ามระบบปฏิบัติการ หรือ Platform ได้โดยไม่ต้องมีการ compile ใหม่
ปรแกรมที่ถูกพัฒนาด้วยภาษา Java ถูกแบ่งเป็นสองประเภทหลัก ๆ คือ

  1.           Java Application – โปรแกรม Java ทั่ว ๆ ไป ที่ทำงานได้ด้วยตัวของมันเอง (Stand Alone Application)
  2.           Java Applet – โปรแกรม Java ที่ถูกนำไปใช้บน Internet เท่านั้น

Java ถูกพัฒนาในปี 1991 โดยบริษัท Sun Microsystems ที่รู้จักกันดีในปัจจุบัน โดยเป็นส่วนหนึ่งของ Green Project ซึ่งเป็นการทำวิจัยสำหรับการพัฒนาซอฟแวร์เพื่อควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ในบ้าน
            กลุ่มนักวิจัยเชื่อว่าผลสำเร็จของการวิจัยนี้จะนำไปสู่การพัฒนาโปรแกรมภาษาที่มีความสามารถ และประสิทธิภาพสูงสุดในได้อนาคต
 โดยเริ่มแรกในการวิจัยพัฒนาโปรแกรมภาษาดังกล่าว C++ ถูกเลือกใช้ให้เป็นภาษาหลักในการพัฒนา เนื่องจากมีความเป็น OOP อยู่แล้วในตัว แต่แล้วกลุ่มนักวิจัยก็พบว่า C++ มีปัญหาและความไม่เหมาะสมต่าง ๆ มากมาย อาทิเช่น เรื่องของหน่วยความจำที่อาจจะมีเพียงน้อยนิด หรือ ไม่มีเลยในกลุ่มของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก ไม่พอกับที่ C++ ต้องการ, เรื่องของระบบปฏิบัติการที่ไม่มีในเครื่องใช้เหล่านี้ หรือไม่ว่าจะเป็นความไม่รัดกุมของภาษาเอง ดังนั้นหนึ่งในกลุ่มนักวิจัย James Gosling ได้คิดค้นภาษาใหม่ขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับการพัฒนาครั้งนี้โดยเฉพาะ ซึ่งมีความเป็น OOP, ไม่ขึ้นกับระบบปฏิบัติการ และมีการจัดการเรื่องของหน่วยความจำได้ดี เหมาะสมสำหรับการวิจัยครั้งนี้แล้วให้ชื่อว่า OAK

Do you know…?
ชื่อโปรแกรมภาษา OAK มีที่มาจาก ต้นไม้ที่ Gosling มองออกไปทางหน้าต่างที่ทำงานของเค้า
           
ภายหลังจากการพัฒนาภาษา OAK ได้สำเร็จ บริษัท Sun ได้นำไปใช้กับบริษัทลูกค้าที่ต้องการพัฒนา Interactive TV ซึ่งเป็นการติดตั้งโปรแกรมลงไปที่กล่องสัญญาณ แล้วต่อพ่วงไปยัง TV เพื่อใช้เป็นตัวควบคุม และติดต่อกับผู้ใช้ แต่โครงการนี้ได้ยุบไปก่อนที่จะพัฒนาสำเร็จ OAK จึงไม่ได้เป็นที่แพร่หลาย OAK จึงถูกเก็บเอาไว้ในคลังการวิจัยของ Sun
            ต่อมาไม่นาน เมื่อการ Internet และ HTML มีการพัฒนา และเป็นที่นิยมมากขึ้น Sun จึงเล็งการไกลถึงการพัฒนา Internet Application ก็เลยนำ OAK ขึ้นมาแก้ไขปรับปรุงให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันอีกครั้ง แล้วเปลี่ยนชื่อเสียใหม่เป็น Java ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา


ทำไมต้องเลือกใช้ java

  • ทำงานอิสระ (Platform Independent) มีผู้กล่าวไว้ว่า Java เกิดมาเพื่อการทำงานบน WWW นั่นหมายความว่า Browser จะทำการ download โปรแกรมจาวาจาก server มาทำงานบนโดยตรงอยู่บนเครื่องของผู้เรียกเว็บเพ็จได้เลย โดยไม่คำนึงว่า ระบบปฏิบัติการของผู้ใช้ ข้อดีของการ Download โปรแกรมมาใช้งานบนเครื่องของผู้ใช้ก็คือ สามารถลดเวลาในการโหลดโปรแกรมมาจาก server ทุกครั้งที่มีการสั่งการ หรือ Interactive ระหว่างผู้ใช้กับโปรแกรมจาวา จึงเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับโปรแกรมจาวาบน Internet เป็นอย่างมาก
  • ความง่ายของตัวภาษา Java มีความคล้ายคลึงกับภาษา และ C++ เป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงไม่เหมือนกับภาษาใหม่อื่น ๆ ที่ต้องมาเริ่มศึกษาไวยากรณ์กันทั้งหมด อีกทั้งยังตัดความยากหรือความซับซ้อนต่าง ๆ ของภาษา C และ C++ ออกไป โดยใช้หลักการของ Object-Oriented Programming มาแทนที่มากขึ้น จึงทำให้การพัฒนาในเรื่องของหน้าจอ (Interface) ไม่ใช่เรื่องที่ยาก
  • ความปลอดภัย (Security) นั่นคือ เมื่อต้องมีการถูก Download ไปใช้อยู่ในที่ต่าง ๆ ภาษาจาวาจึงมีการกำหนดข้อจำกัดบางอย่างขึ้น เพื่อไม่ให้การรันโปรแกรมนั้น ๆ ไปก่อให้เกิดความเสียหายบนเครื่องของผู้ใช้ได้ ดังนั้นจึงสามารถลืมบรรดา Hacker ทั้งหลายที่รักการเขียนโปรแกรมก่อกวนไปได้ในระดับหนึ่ง
  ในปัจจุบันนี้มีโปรเเกรมต่างๆที่ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างมาากมาย เเต่ล่ะโปรเเกรมนั้นก็มีความสามารถของตัวมันเอง เพราะฉะนั้นควรคำนึงถึงการใช้ด้วย จะได้ไม่ต้องโหลดโปรเเกรมที่ไม่ต้องมามา

ที่มา:
https://www.youtube.com/watch?v=a1LX0bieeSg
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B3
http://nwannika.tripod.com/java/Chapter1.htm